My photo
ผู้หญิงตัวกลมๆ หลากหลายอารมณ์ให้ค้นหา

Wednesday, January 11, 2012

ฟันสมชื่อ

     ถ้าพูดถึงการไปหาหมอฟันน้อยคนนักจะชอบ เพราะรู้ๆ อยู่ว่าสิ่งที่ตามมาคือต้องเสียว เจ็บ และมีกระเป๋าฉีกกันบ้าง ยิ่งหมอฟันในอเมริกาด้วยแล้วไปทีก็ต้องคิดก่อนไปหลายรอบถึงแม้จะมีประกันอยู่ก็ตาม  ถ้าไม่มีประกันขอแนะนำว่ากลับไปทำฟันบ้านเราดีกว่าถูกกว่า แถมคุยกันเข้าใจ
     เริ่มแรกการไปหาหมอฟันของหนูก็เริ่มจากการไปขูดหินปูนแบบทะลุทะลวงทุกซอกทุกมุมก่อนเมื่อปีที่แล้ว และก่อนที่จะขูดหินปูนเขาก็มีการเอกซเรย์ฟันทั้งหมดว่าตรงไหนมีปัญหาอะไร การขูดหินปูนที่นี่ขูดได้สะอาดล้ำลึกมากจริงๆ แถมขูดทีละข้างคือต้องไปกันวันละข้างเท่านั้นมันไม่เหมือนกับขูดบ้านเราที่ไปวันเดียวเสร็จหมดทั้งปาก ใครอยากรู้ว่าสะอาดยังไงก็ลองไปดูได้ ซึ่งแต่ละอย่างที่เขาทำให้เราเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้นจำได้คร่าวๆ ว่าประมาณ $200 - 300 เหรียญในการทำทุกอย่างตั้งแต่เริ่มเอกซเรย์จนถึงขูดหินปูนเสร็จ แต่ถ้ามีประกันรู้สึกว่าจะเสียไม่กี่เหรียญหรือแทบไม่เสียเลย ตอนนั้นก็ลืมจดเอาไว้
     คราวนี้ผ่านมาเป็นปีก็ตัดสินใจที่จะเอาไอ้ฟันคุดเจ้าปัญหาออก ก็จัดการนัดหมอก่อนเป็นอันดับแรก คิวหมอฟันที่นี่ก็แน่นจริงๆ แทบจะไม่มีเวลาว่างหรือที่ว่างก็ไม่ตรงกับเวลาว่างของเรา วันนี้พอไปถึงก็เอาเอกสารประกันต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ดูเขาจะได้เช็คยอดถูก  พอถึงเวลาพบหมอๆ ก็จะให้ผู้ช่วยมาคุยกับเราก่อนเรื่องฟันตัวไหนที่มีปัญหาและก็จะเอ็กซเรย์ฟันนั้นอีกรอบ ซึ่งฟันที่มีปัญหาของหนูนั้นมีสองซี่คือฟันคุดด้านขวาและฟันกรามที่ติดกับฟันคุดเพราะโดนนังคุดมันเบียด จนฟันกรามนั้นเริ่มคลอนและมีรอยผุ นี่แหละคือที่มาของความเจ็บปวดจนต้องตัดใจบอกลาแม้ว่าจะกลัวจนขี้หดตดหายก็ตาม  ยอมรับว่าค่อนข้างขี้ขลาดและกลัวมากกับเข็มฉีดยาและการไปหาหมอฟัน
     เมื่อผู้ช่วยเอ็กซเรย์ฟันเสร็จแล้วก็จะเรียกเรามาคุยว่าฟันมันเป็นแบบนี้นะ ต้องทำอะไรมั้ง บางคำก็ฟังออกบางคำก็ฟังไม่ออกแต่พอเข้าใจและต่อมาหมอฟันก็เข้ามาคุยกับเราอีกรอบ และถามว่าเราต้องการยังไงจะถอนทั้งคู่หรือว่าถอนแค่อันที่ปวดก่อน  หนูเลยตัดใจถอนทั้งคู่และคิดว่าจะถอนตอนนั้นเลยแต่หมอขอดูฟันก่อน ก็มีการจับๆ มองๆ ก่อนจะบอกว่าอย่าเพิ่งถอนดีกว่าให้กินยาก่อนเพราะฟันมันยังปวดอยู่และมีบวม ถ้าถอนตอนฉีดยาคงช่วยไรได้ไม่มาก และหมอก็กลัว infection
ไอ้คำนี้แหละที่ยังงงๆ ว่ามันคือไรแต่ก็พยักหน้ารับ หมอให้ทำไรก็ทำเสร็จแล้วกลับมาบ้านก็ค่อยเปิดดิกชันนารีดูว่ามันแปลว่าอะไร  ก่อนกลับเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ก็จะมีเอกสารให้เราซึ่งจะมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราจะต้องเสีย  ซึ่งเขาประเมินคร่าวๆ เอาไว้ ของหนูเขาคิดยอดทั้งหมด $710 แต่เราจ่ายเองแค่ $142  และก็คุยเรื่องวันเวลานัดหมายอีกรอบ ก่อนจะมีเอกสารไปรับยาอีกที่
     แต่สงสัยอย่างเมืองนอกนี่มันแปลกนะ ไปหาหมอฟันที่นึงแต่เวลาไปเอายาต้องไปเอาที่ fred mayer หรือไม่ก็ carrs ทำไมมันไม่ให้เอาเลยจากคลีนิคหมอฟันทำไมต้องให้เราลากสังขารขับรถไปอีกที่ซึ่งมันไม่ได้ใกล้กันเลย ค่ายาตอนนั้นก็ประมาณ $4 นิดๆ ได้ และหมอก็นัดอีกทีหนึ่งอาทิตย์
     จนถึงวันนัด พอไปถึงก็ไปติดต่อที่เคาเตอร์เหมือนเดิมว่าเรามาแล้ว เขาก็ให้เรานั่งรอสักพักก่อนผู้ช่วยจะมาเรียกชื่อเราและเดินพาเราเข้าห้องเชือด  ผู้ช่วยก็จะชวนคุยโน่นคุยนี่ คือพูดง่ายๆ ทำให้เราสบายใจและเชื่อใจในตัวเขาว่าเขาจะทำให้ดีที่สุด บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ได้แต่เออออตาม เพราะใจนะเต้นตูมตามๆ แทบจะวิ่งหนีกลับบ้านให้ได้
      พอมาถึงในห้องเขาก็จะมีรูปฟันเราโชว์ในคอมฯ ให้ดูและหมอก็เข้ามาคุยด้วย แถมปลอบว่าไม่ต้องกลัวอย่างนั้นอย่างนี้ และบอกว่าถ้าระหว่างทำมีอาการเจ็บหรือเป็นไรให้ยกมือขึ้น ก่อนจะขึ้นเขียงผู้ช่วยก็จะเอาเอกสารมาให้เราอ่านและเซ็นต์รับรอง เนื่องจากภาษาปะกิตก็อ่อนหัดนัก ศัพท์บางคำก็แปลไม่ออกแต่เดาเอาว่าเป็นเอกสารเซ็นต์ยินยอมถ้ามีผลกระทบจากการถอนซึ่งจำได้ว่ามีคำว่า pain , TMJ (temporomandibular joint disorder) และอีกหลายคำแต่จำไม่หมด  ไอ้คำว่า TMJ นี่ก็จำเอามาเปิดดิกชันนารีดูที่บ้านอีกว่ามันแปลว่าไร ถึงได้รู้ว่ามันเกี่ยวกับขากรรไกร จากนั้นก็ขึ้นเขียงเตรียมฉีดยาชา พอฉีดเสร็จสักพักหมอก็จะถามว่า numb หรือยังหรือเรารู้สึกยังไงและหมอก็จะเช็คอีกรอบก่อนถอนว่ามันชาจริงๆ หรือเปล่าโดยเอาไรมาจิ้มๆ พอเรารู้สึกว่าเจ็บก็บอกหมอทีนี้เขาก็ฉีดยาเพิ่มอีกเข็ม สรุปหนูโดนไป 4 หรือ 5 เข็มนี่แหละ และรอสักพักก่อนที่จะลงมือ  ระหว่างที่หมอถอนบอกได้เลยว่าสารพัดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นึกได้ ปู่ย่า ตายาย หนูเรียกให้รวมตัวมาช่วยกันครบทีม ก็คนมันกลัวนี่นา
     พอถอนเสร็จหมอก็จะชมโน่นชมนี่ ว่าเก่ง อดทน ไอ้เราก็บ้ายอได้ยิ้มแหยๆ แต่น้ำตาจะไหล และหมอก็ให้ผู้ช่วยมาดูแลเราต่อ เขาก็ถามว่าเป็นไงมั้ง เขาก็บอกว่าเราปวดบริเวณขากรรไกร ลามไปถึงหู ตรงนี้ใช้ภาษาท่าทางเอาเพราะไม่กล้าพูดกลัวเลือดออก เขาก็เข้าใจเรานะบอกว่ามันปกติไม่มีไร และก็ให้ซองใส่เอกสารการดูแลพร้อมกับถุงประคบเย็น ก่อนจะบอกพาออกไปข้างนอกซึ่งคุณสามีก็นั่งเล่นเกมส์รออย่างสนุกสนาน มีแต่เมียนี่แหละที่กำลังจะเป็นลมเพราะความกลัว
      ก่อนกลับหมอก็ตามออกมาคุยด้วยอีกรอบ เจ้าหน้าที่เคาเตอร์ก็บอกวันนัดดูแผลอีกอาทิตย์นึง ก่อนจะส่งบิลค่าใช้จ่ายจริงให้ ซึ่งสรุปแล้วเสีย $516 แต่เราจ่ายแค่ $94 ซึ่งถือว่าไม่แพงเท่าไหร่สำหรับฟันสองซี่  และก็ทำการจ่ายเงินก่อนที่เขาจะให้เอกสารไปรับยาที่ fred mayer  เจ้าหน้าที่ก็ย้ำว่าถ้ามีปัญหาก็โทรมาหรือมาที่คลีนิคได้  ส่วนค่ายาแก้ปวดที่ไปจ่ายที่ fred mayer ก็ $2.57
    

5 comments:

  1. ตอนพี่กลับไปไทย พี่ไปขูดหินปูน ครอบฟัน ทำฟันปลอม อุดฟัน หมดไปเกือบสามหมื่นแน่ะ แถมฟันกรามเล็กปลอมที่ทำมาแล้ว พอใส่สักพักดันไปทำให้ฟันแท้ข้างๆที่เคยอุดไว้เสียว หมอบอกว่าต้องรักษารากฟันแล้วครอบ ประมาณซี่ละเกือบสองหมื่น ว้าว ตังค์หมดแล้วตอนนั้น เพราะอีกไม่ถึงอาทิตย์ต้องกลับมานี่ หมอเลยบอก ไปรักษาที่โน่นแล้วกัน ในใจพี่นึก ทำเป็นพูดเล่นไปนะหมอ รักษารากฟันที่นี่สองซี่ต้องทำงานใช้หนี้ไปอีกกี่ปีก็ไม่รู้ ทำที่ไทยก็ถูกฟันไปเยอะ มานี่ไม่เหลือแน่ๆ ช่วงนี้เลยใช้ เซนโซดายน์ 5 เหรียญกว่าๆแก้เสียวไปก่อน ฮ่าๆ ใช้ได้ผลขอบอก

    ReplyDelete
  2. เพื่อนพี่เขาทำที่เบลเยี่ยม ผ่าฟันคุด ส่งรูปมาให้ดู โพกผ้ารอบหัวกับคาง เห้นรูปแล้วนึกว่าเกิดอุบัติเหตุ นอนโรงพยาบาลอยู่สามวันมั้ง บ่นว่าอาหารโรงพยาบาลไม่อร่อย กลับมากินข้าวต้มกุ๊ยลูกเดียว

    ReplyDelete
    Replies
    1. ของหนูสบายคะพี่ บอกเลยว่าถ้าคนไม่ใจเสาะแบบหนูนะเขาไม่เจ็บหรอก แต่หนูนะใจเสาะแต่ก็ไม่เจ็บมากไร เมื่อวานก็กินได้มั้งแล้ว วันนี้ก็ไม่รู้สึกไรเลยเกือบปกติแล้วคะ แค่ตึงๆ ตรงไหมที่เย็บไว้เท่านั้น

      Delete
  3. มาอ่านได้ความรู้เรื่องเยอะดีจัง พี่ดาก็กลับไปไทยทำแค่รักษารากฟันและขูดหินปูนเอง แม็ทก็บอกว่าทำไมไม่ทำที่นี่ เราก็มีประกัน ที่ไม่ตัดสินใจทำที่อเมริกา ก็ฟังภาษาหมอไม่เป็นเนี่ยละ ...เลยกลัวถูกขึ้นเขียงแล้วไม่รู้จะตอบว่างัย..น้องหนูเก่งจังลุยมาละ..อิอิ ชมนะขอบอก

    ReplyDelete
    Replies
    1. พี่ดาไปทำเลยคะ อุตส่าห์เสียเงินค่าประกันไปแล้วเราต้องใช้สิทธิ์มั้งนิดหน่อยไปขูดหินปูนก็ยังดี เราฟังไม่รู้เรื่องหมดทุกคำหรอกแต่เราบอกเขาเป็นภาษาท่าทางได้คะ หมอเขาเข้าใจเราอยู่แล้ว หนูก็ภาษาอังกฤษไม่ดีเท่าไหร่

      Delete